ดาราสาวแตงโม นิดา เปลือยหมดเปลือก ครั้งแรก หลังสูญเสีย คุณพ่อโสภณ อัพเดต เผยสถานะหัวใจมีคนคุยแล้ว แพ้ทางมนต์รักน้ำเต้าหู้
เพิ่งสูญเสียคุณพ่ออันเป็นที่รักไปไม่นาน สำหรับนักแสดงสาว แตงโม นิดา โดยเจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ตั๊กแตน ชลดา เป็นพิธีกร พร้อมเผยสถานะหัวใจตอนนี้มีคนคุยแล้ว

สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง?
-ตอนนี้ทำใจได้เยอะแล้วนะคะ คุณพ่อจากไปประมาณ 2 อาทิตย์ จริงๆ ก็เริ่มทำใจมาเรื่อยๆ ตั้งแต่คุณพ่อป่วย เพราะคุณหมอบอกไว้แล้วว่าจะอยู่ได้แค่ประมาณเดือนเดียว ถามว่าท่านรู้มั้ย รู้ค่ะ เขาก็ทรุด เพราะว่าใจเขาจะแบบพอรู้ว่าตัวเองเป็นหนัก ใจเขาจะค่อนข้างอ่อนแอ เหมือนแบบท้อ”
เราทำใจได้แล้ว แต่เราก็ยังอยู่คนเดียวไม่ได้?
-ยังอยู่คนเดียวไม่ได้ค่ะ อยู่คนเดียวแล้วคิดถึงพ่อมากเลย มันไม่มีที่ปรึกษาแล้ว มันไม่มีคนคุยด้วยแล้วในเรื่องราวต่างๆ ไม่มีคนแชร์ประสบการณ์ มีเหงาคิดถึงพ่อ ทุกวันนี้ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่เวียนมาอยู่ด้วย”

ซื้อบ้านติดกับคุณพ่อ แล้วเวลากลับไปเห็นความรู้สึกเป็นยังไง?
-ตอนนี้รู้สึกว่าบ้านสองหลังติดกัน เมื่อก่อนนี้มันเคยพอดี ตอนนี้พอคุณพ่อไม่อยู่ แฟนคุณพ่อก็ออกไปด้วย เหลือเราคนเดียวแล้ว บ้าน 2 หลังมันว้าเหว่มากเลย ถามว่าคิดอยากขายสักหลังมั้ย จริงๆ โมรักบ้านหลังนี้มาก เป็นทาวน์โฮมติดกันแล้วก็เจาะทะลุ อาจจะทำเป็นสตูดิโอก็ได้ให้คนมาเช่าถ่ายรูป”
คุณแม่เป็นยังไงบ้าง?
“คุณแม่พอๆ กันค่ะ อาจจะทำใจไม่ค่อยได้เท่าโม คุณแม่ค่อนข้างอ่อนไหว เขาเหมือนยังคิดถึงอยู่ ยังทำใจไม่ได้ที่พ่อจากไปเร็ว”

การที่เราสูญเสียคุณพ่อไป มีผลต่อโรคซึมเศร้าของเราไหม?
-ตอนแรกคิดว่ามันจะมีแบบเยอะๆ เลยนะ แต่มันไม่มี ตอนแรกโมคิดว่าโมต้องตายแน่เลย โมไม่รู้จะอยู่ไปเพื่อใคร แต่พอเอาเข้าจริงๆ คริสเตียนเราเชื่อว่าถ้าใครที่เสียชัวิตแล้วจะได้อยู่พระสวรรค์ พอเรารู้อยู่แล้วว่าพ่อเราเสียแล้วไปอยู่กับพระเจ้า เราก็เลยไม่รู้จะเศร้าเสียใจไปทำไมนานๆ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งเราจะกลับไปเจอกันที่นั่น”
ตอนที่ท่านมารายการ ท่านยังดูแข็งแรงอยู่เลย?
-ทรุดเร็วมาก โมก็ยังตกใจเหมือนกัน เขามีโรคแทรกซ้อน มีปอดรั่ว วันหลังๆ เริ่มปัสสาวะเป็นหนอง เริ่มหายใจไม่ออก เริ่มตัวร้อน เห็นท่าไม่ดีก็เลยส่งโรงพยาบาล แล้วอยู่ได้ 2 วันคุณพ่อก็ไป มะเร็งลามไปถึงกระดูกด้วยค่ะ ช่วงสุดท้ายที่คุณพ่ออยู่บ้านเป็นเหมือนผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถขยับได้ เพราะเขาเจ็บกระดูกมากต้องอุ้มกันเลย เขาบอกเขาเจ็บไปทั้งตัวเลย เขายอมแพ้แล้วไม่ไหว”

หลังจากที่รู้ว่ามีโรคเข้ามาแทรกซ้อน พ่อได้พูดอะไรกับเราไหม?
-ไม่ได้พูดค่ะ เขาจะเงียบๆ คือช่วงที่เขาป่วยติดเตียงเ ขาจะกึ่งความจริงกึ่งความฝัน มีอาการเบลอแล้ว จะเล่าอะไรไม่ค่อยถูก ตอนที่พ่อไปโรงพยาบาลคิดมั้ยว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้าย ไม่คิดค่ะ คิดว่าเดี๋ยวกลับมา โมคิดว่าพ่อน่าจะอยู่เป็นปีๆ เพราะบางวันพ่อก็สุขภาพแข็งแรงขึ้นมาก วันที่ไปให้เลือดก็รู้สึกดีมาก”
เขาเริ่มคุยกับเราไม่รู้เรื่องตอนไหน?
-ช่วง 2 เดือนสุดท้าย เขาจะเอาความฝันเขามาเล่าละ มีคนตามฆ่าบ้าง มีอะไรอย่างนี้บ้าง มีคนปองร้ายเขา”
เห็นว่าได้เซ็นกับโรงพยาบาลไว้ด้วย ถ้าคุณพ่อไปไม่ต้องกระตุ้นด้วยยา?
-ใช่ค่ะ เพราะว่าคุณพ่อทรมานหนักมากแล้ว ตอนหลังหลับไปแทบจะไม่รู้เรื่องแล้ว เหมือนยื้อให้เขาทรมานอยู่ด้วยเครื่องแล้ว โมก็เลยมีความรู้สึกว่าถ้าจะทรมานขนาดนี้ให้ไปอยู่กับพระเจ้าดีกว่า แล้วคุณพ่อเคยบอกนานแล้วว่าถ้าวันหนึ่งคุณพ่อถึงวัยชราแล้วป่วย ไม่ต้องยื้อเขาไว้เลย ให้เขาไปดีๆ ดีกว่า แล้วเขาก็จากไปอย่างสงบ”

ตอนที่เซ็นร้องไห้ไหม?
-โห…ไม่ยอมเซ็นอยู่รอบหนึ่ง คือโรงพยาบาลให้ไปเซ็นใช่มั้ยคะ ครั้งแรกเนี่ยไม่ยอมเซ็น มันเหมือนในใจเราคิกว่าเราฆ่าพ่อหรือเปล่าวะ เราเป็นคนสั่งอนุญาตฆ่าพ่อหรือเปล่า รู้สึกอย่างนี้ก็เลยไม่เซ็น แต่พอตอนหลังไปเห็นสภาพเขานอนหายใจเหนื่อย รู้สึกว่าคุณพ่อทรมานมากแล้ว พ่อมีไตวายเฉียบพลันด้วย แล้วก็ติดเชื้อในกระแสเลือดแล้วด้วย ติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะด้วย คือข้างในไปหมดแล้วก็เลยไม่รู้ว่าจะยื้อไว้ทำไม”
-เหมือนคุณพ่อก็จะรอให้ทุกคนมาเยี่ยมพร้อมกันหมด เหมือนเขาจะลืมตา ไม่รู้ว่ารับรู้หรือเปล่า แต่ว่า 6 ชม.แล้วแกก็ยังไม่ไปสักที ขณะที่ถอดสายยา ไม่ได้ให้ยาช่วยแล้วก็ไม่ไปสักที เราก็เลยกลับบ้านกันมาประมาณ 5 ทุ่ม เพราะคุณหมอบอกว่าพ่อจะไปคืนนี้”
พอคุณหมอบอกแบบนี้เราใจแป้วไหม?
-เห็นจากสภาพแล้วไม่แป้วนะคะ เพราะว่าคุณพ่ออาการหนักมากจริงๆ แต่ 6 ชม.แล้วยังไม่ไปเลย เราก็เลยแบบคุณพ่อสู้มากเลย กลับบ้านกันมาช่วง 5 ทุ่ม เพราะว่าคุณป้าเขาจะเหนื่อยละ พอนั่งลงปุ๊บโรงพยาบาลโทรมาว่าคุณพ่อเสียแล้ว ไปไม่ทัน รู้สึกเสียดายคะ แป๊บเดียวเอง เหมือนท่านรอ ในรูปจะเห็นเลยว่าคนเยอะมากจริงๆ”

เหมือนตั้งใจไม่ให้ใครเห็นตอนท่านไป?
-ใช่ค่ะ เพราะโมเองก็ไม่ได้อยากเห็นเฮือกสุดท้ายของพ่อ โมกลัวว่าภาพจะติดตา เฮือกสุดท้ายที่หยุดหายใจ ตอนเปิดประตูไป พ่อไม่หายใจแล้วก็ใจหวิวค่ะ ไม่มีแล้วเนอะพ่อเรา ณ โมเมนต์นั้นถามตัวเองว่าอยากย้อนเวลากลับไปทำอะไรให้พ่อมั้ย คำตอบคือไม่มี โมคิดว่าโมทำดีที่สุดแล้ว โมเลยรู้สึกว่าโมสบายใจ”
คุณพ่อสั่งเสียอะไรบ้างไหม?
-ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการดูแลตัวเองมากกว่า เรื่องของการรักษาสุขภาพ แล้วอีกเรื่องหนึ่งที่คุณพ่ออยากเห็นคือใบปริญญา เหลืออีกแค่ 2 เทอมก็จะจบแล้ว ไม่ทัน โชคดีที่ทันวันเกิด แต่ไม่ทันวันรับปริญญา เสียดายมากๆ ตอนนี้ถ้าคุณพ่อรับรู้ได้อยากจะบอกคำเดียวสั้นๆ คิดถึงมากๆ คิดถึงพ่อ”
คิดถึงขนาดเอากระดูกท่านแปะตู้เย็น?
-คือเอามาจากส่วนหนึ่งที่จะเอาไปลอยอังคาร ต้องบอกก่อนว่าคริสเตียนปกติเขาจะใช้ฝัง แต่ด้วยความที่บ้านเราสถานที่ฝังมันจะแพงหน่อย แล้วหายาก ทีนี้ก็จะมีการเผาเกิดขึ้นมาในยุคใหม่ แต่ว่ากระดูกเราจะเอาไปใส่คอนโดของคริสจักร”
-ส่วนหนึ่งก็จะเอาไปฝังพร้อมอากงอาม่าที่ภูเก็ต คุณพ่อเขาอยากกลับไปอยู่กับอากงอาม่า เราก็แยกส่วนไป แล้วอันนี้โมก็ไปเปิดดูอันที่เขาจะเอาไปลอยอังคาร โมก็หยิบเฉพาะชิ้นที่ดีๆ มา แล้วมาแปะที่ตู้เย็นแล้วก็บอกรักนะทุกวัน คิดถึงนะทุกวัน ถามว่าทำไมต้องตู้เย็น มันเห็นชัดค่ะ เพราะว่าเวลาโมนั่งองศาโมมองตู้เย็น”
ในงานศพของคุณพ่อ เห็น แต๊งค์ พงศกร แฟนเก่าไปร่วมงานด้วย?

-ใช่ต้องขอบคุณคุณแต๊งค์ แล้วก็ครอบครัวคุณแต๊งค์ด้วยมากันทั้งบ้านเลย ต้องขอบคุณตั้งแต่ช่วงที่คุณพ่อยังป่วยอยู่ ได้สนับสนุนเครื่องช่วยหายใจจากคุณแม่เจกับแต๊งค์นี่แหละค่ะ เขาซื้อให้ในฐานะของคนที่เคยสนิท แต่อนาคตจะสนิทหรือเปล่าไม่รู้นะ”
เขาก็มีแฟนแล้วใช่ไหม?
-ตอนนี้โสดค่ะ เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มีอะไรเขาก็ช่วยเหลือเราตลอด ส่วนอดีตแฟนเก่าคนอื่นๆ มีมาร่วมงานบ้างมั้ย ไม่มีค่ะ มีแต่ส่งดอกไม้มาเป็นพวงหรีดมา”

เรื่องความรักปิดไหม?
-ไม่ปิด ตอบได้ ตอนนี้ไม่คบเด็กแล้ว เพราะว่าคุยกันคนละภาษา เรื่องความไม่เข้าใจกันมันจะมีเยอะ เหมือนประสบการณ์เขาก็ยังน้อยไม่ค่อยเข้าใจในโลกของเราในสิ่งที่เราทำ”
คนใหม่นี่อายุน้อยไหม?
-เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งรวบรัดว่าเป็นคนใหม่สิ คนที่คุยอยู่ตอนนี้อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน บวกลบสอง เอาจริงๆ แล้วเด็กกว่าก็ได้ แต่ขอให้เด็กคนนั้นเป็นคนที่มีวุฒิภาวะสูง เป็นคนที่เป็นผู้นำได้ดี มีระเบียบวินัย อย่างนี้โอเค แต่ไม่มี หาไม่เจอ”
คนที่คุยอยู่ตอนนี้ในวงการหรือนอกวงการ?
-นอกค่ะ เขามีธุรกิจของตัวเอง เขาเป็นพ่อค้า ถามว่าคนนี้น่ารักยังไง เขาเป็นห่วงเราโดยที่ไม่หวังอะไร เราจะรู้เลยว่าเขามาเพื่อเทกแคร์เรา ไม่หวังอะไรจากเราจริงๆ”
เข้ามาคุยกับเราได้ยังไง?
-คือจริงๆ เราเคยเจอกันเมื่อ 8 ปีที่แล้วในห้างห้างหนึ่ง เพื่อนคนกลางก็มีการแลกไลน์กันให้เรา แล้วหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกับเขา หายไปเลย พอล่าสุดที่เราเลิกกับแฟน เขาก็เสิร์ชไอจีเราด้วยความมั่วของตัวเองเสิร์ชเจอ เพราะโมตั้งไพรเวตไว้ เสิร์ชเจอไลน์ของเราได้ยังไงไม่รู้ เขาบอกลองหลายทีแล้วมันไม่ได้ พอเจอเขาก็ถามว่าทำอะไรอยู่ จำเราได้หรือเปล่า เราก็บอกจำได้ เขาบอกสถานที่ที่เคยเจอกันมา”
แล้วมันสานต่อยังไง จนทีทุกวันนี้?
-มนต์รักน้ำเต้าหู้มั้งคะ เขาซื้อมาให้กินบ่อย ถามว่าก่อนหน้านี้เคยพาไปเจอคุณพ่อหรือยัง ไม่ทันค่ะ แต่เราเพิ่งคุยกัน ไม่เกิน 3 เดือน”

แล้วจากเพื่อนคนสนิทจะเปลี่ยนให้เป็นแฟนจะทำยังไงบ้าง?
-อย่าเพิ่งค่ะ ไม่รีบ ใจเย็นๆ รอไปจนกว่าโมจะดูแลเขาได้จริงๆ คือตอนนี้เขาดูแลโมฝ่ายเดียวเลย คือตอนนี้โมรู้สึกเข็ดกับความรัก โมเลยไม่โฟกัสความรักแล้ว แล้วโมก็ปล่อยให้เขาดูแลโมอยู่ฝ่ายเดียว โมขอบคุณเขาตลอดเวลา แต่ว่าโมแทบไม่ได้ทำอะไรให้เขาเลย แต่เขาคงเข้าใจว่าโมอยู่ในช่วงที่เพิ่งเสียคุณพ่อด้วย โมเลยไม่ได้โฟกัสเรื่องความรักเลย”
สวยด้วย ตอนนี้เริ่มมีคนคุยแล้ว เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะมีเบบี๋ก็ไม่ใช่เรื่องยาก?
-ก็ยากค่ะ”
ขอบคุณ คุยแซ่บShow
คลิปสัมภาษณ์ย้อนหลัง แตงโม นิดา